พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [1. มูลปริยายวรรค]
10. มหาสติปัฏฐานสูตร
9. 7 เดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอด 6 เดือน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
10. 6 เดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอด 5 เดือน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
11. 5 เดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอด 4 เดือน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
12. 4 เดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอด 3 เดือน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
13. 3 เดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอด 2 เดือน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
14. 2 เดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอด 1 เดือน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
15. 1 เดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอดครึ่งเดือน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
16. ครึ่งเดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน 4 ตลอด 7 วัน
พึงหวังผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [1. มูลปริยายวรรค]
รวมพระสูตรที่มีในวรรค
[138] ภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางสายเดียว เพื่อความบริสุทธิ์ของ
เหล่าสัตว์ เพื่อล่วงโสกะและปริเทวะ เพื่อดับทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม
เพื่อทำให้แจ้งนิพพาน ทางนี้ คือ สติปัฏฐาน 4 ประการ เราอาศัยทางสาย
เดียวนี้แล้วจึงกล่าวคำดังพรรณนามาฉะนี้"
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสภาษิตนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นมีใจยินดีต่างชื่นชมพระ
ภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล
มหาสติปัฏฐานสูตรที่ 10 จบ
มูลปริยายวรรคที่ 1 จบ
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
1. มูลปริยายสูตร___2. สัพพาสวสูตร
3. ธัมมทายาทสูตร___4. ภยเภรวสูตร
5. อนังคณสูตร___6. อากังเขยยสูตร
7. วัตถูปมสูตร___8. สัลเลขสูตร
9. สัมมาทิฏฐิสูตร___10. มหาสติปัฏฐานสูตร
ขอท่านทั้งหลายจงฟังพระสูตรอันมีนัยต่าง ๆ
เป็นธรรมชาติไม่แก่ ไม่ตาย ให้บรรลุอมตธรรม
แสดงไขทั้งมรรคและผล อันบรรเทาทุกข์
มีประโยชน์เกื้อกูล ก่อให้เกิดมหารสหลายพันนัย
อันนำมาซึ่งปีติมากมาย ทำความเร่าร้อนเพราะไฟ 3 ชนิด
(ไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ) ให้ดับสูญ
เหมือนวสุธาราหลั่งชโลมดับร้อนแห่งพื้นพสุธาฉะนั้น
